


ลงขายบุหรี่ไฟฟ้า เรื่องการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าของไทยรวมทั้งต่างแดน
ศาสตราจารย์นพ.ประกิต บอกว่างานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นดังที่ได้กล่าวมาแล้วไม่สนับสนุนคำกล่าวอ้างของฝ่ายที่ผลักดันแนวทางการขายบุหรี่ไฟฟ้าที่กล่าวถึงว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นอันตรายกว่าบุหรี่ปกติ
ซึ่งที่ผ่านมามีรายงานจากสหรัฐฯว่าวัยรุ่นที่ดูดบุหรี่ไฟฟ้ามีการเสี่ยงที่จะติดโรคโควิด-19 มากขึ้น 5-7 เท่า แล้วก็การวิเคราะห์งานศึกษาค้นคว้าต่างๆก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาล้วนสรุปตรงกันว่า
การสูบยาสูบไฟฟ้าส่งผลให้เกิดการอักเสบของทางเดินหายใจแล้วก็ทำให้ภูมิคุ้มกันของปอดมีโอกาศลดน้อยลงซึ่งไม่ได้มีความแตกต่างจากการสูบยาสูบปกติรวมทั้งจนกระทั่งปัจจุบันนี้แต่ตอนนี้ยังไม่อาจจะสรุปได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่ปกติทำร้ายต่อทางเดินหายใจไม่เหมือนกันหรือเปล่าดังนั้นองค์การอนามัยโลกได้ชี้แนะให้ทุกประเทศรณรงค์เลิกดูดทั้งยาสูบปกติและก็ยาสูบกระแสไฟฟ้า
โดยในตอนสองปีนี้ที่มีการระบาดของโควิด-19 ก็เลยขอชักชวนให้ชาวไทยใช้จังหวะที่โควิด-19 ระบาดร้ายแรงเลิกดูดทั้งบุหรี่ปกติและก็บุหรี่ไฟฟ้า ดังนี้ ข้อมูลตรวจของเมืองไทยปัจจุบันปี 2564 โดยสสช. พบว่า มีชาวไทยที่เลิกดูดบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาดแล้วกว่า 4.7 ล้านคน ซึ่ง 9 ใน 10 ของชาวไทยที่เลิกบุหรี่ได้เลิกด้วยตัวเองครับ