ร้าน ขาย บุหรี่ ไฟฟ้า พระราม2 รัฐบาลของ 39 ประเทศข้างต้นได้ทำให้เกิดปัญหาแสนซับซ้อนจากการไม่รู้เรื่องว่าผลพวงจากการแบนยาสูบไฟฟ้านั้นเป็นยังไงกับอัตราการสูบบุหรี่ที่สูงกว่า
ในการพินิจพิจารณานี้ผมใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจากการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยแบบ “ ตัดไฟ ไม่มีควัน” (No Fire, No Smoke) ในปี 2018 ที่ทำโดยนักค้นคว้าของหน่วยงานรู้ทัน–ลงมือ–เปลี่ยน (Knowledge-Action-Change) ในกรุงลอนดอน ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมา Vaping Post ก็เคยเผยแพร่ทำการศึกษาเรียนรู้นี้ โดยรายงานเกี่ยวกับในกรณีที่องค์การอนามัยโลกได้รับรองประเทศที่ห้ามใช้ยาสูบไฟฟ้าทั้งๆที่มีสัญญาระหว่างชาติเกี่ยวกับการลดการเสี่ยงที่ส่งผลผูกพันกันอยู่
ซึ่งใน 39 ประเทศที่มีปัญหานั้นรวมทั้งศูนย์กลางของโลกในแต่ละซีกโลก ดังเช่นว่า ประเทศออสเตรเลีย, ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศเม็กซิโก, บราซิล, ประเทศสิงคโปร์และก็แม้กระทั้งประเทศเกาหลีเหนือ นอกเหนือจากนี้ยังมีการห้ามใช้ยาสูบไฟฟ้าในประเทศตะวันออกกลางและก็ประเทศชาวมุสลิมส่วนมาก ตัวอย่างเช่น อียิปต์ อินโดนีเซีย เลบานอน มาเลเซีย โอมาน กาตาร์และก็สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ยิ่งไปกว่านี้เมื่อพิเคราะห์อัตราการสูบยาสูบในประเทศที่ห้ามใช้ยาสูบไฟฟ้าแล้วจะพบว่าทำให้เกิดผลเสียต่อเนื่องต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราการสูบยาสูบ ตัวอย่างเช่น ซาอุดิอาระเบียมีข้อบังคับห้ามวิธีขาย ห้ามผลิตและก็ห้ามนำเข้ายาสูบอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชกฤษฎีกาในปี 2012 ซึ่งพระราชกฤษฎีกานี้ยังควบคุมยาสูบไฟฟ้าราวกับสินค้ายาสูบ ก็เลยได้ผลสำเร็จให้มีการแบน ซึ่งข้อบังคับดังที่กล่าวมาแล้วสนับสนุนโดยกระทรวงสาธารณสุขของประเทศ
โดยเกือบจะทำให้คนที่ใช้ยาสูบกระแสไฟฟ้าแล้วก็อุตสาหกรรมของตลาดยาสูบกระแสไฟฟ้าในซาอุดิอาระเบียอยู่นอกกฎหมายไปเลย จากสถานะการณ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทำให้คาดการณ์ได้ว่าผู้ดูดบุหรี่ในประเทศซาอุดิอาระเบียจะมีปริมาณถึง 10 ล้านคนภายในปี 2020 (โดยคำนวณจากสถิติในปี 2013) โดยนับได้ว่าเป็น 1 ใน 3 ของมวลชนประเทศ แต่ถือได้ว่าโชคดีที่อัตราการสูบยาสูบในราษฎรชาวซาอุดิอาระเบียนั้นลดน้อยลง ซึ่งลดน้อยลงอย่างชัดเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง