pod ks ส่งด่วน ส่วนผสมของน้ำยาที่โดนความร้อนทำให้เกิดสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหลายอย่างทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
-
อนุภาคเขม่าขนาดเล็กจะเข้าไปในเนื้อปอดและระบบไหลเวียนโลหิตซึ่งส่งผลกับหัวใจโดยตรงทำให้มีอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตสูงเกิดภาวะหลอดเลือดสมองหดตัวเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองได้
-
สารที่เป็นตัวทำละลายของเหลวที่ใช้ในบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อโดนความร้อนจะเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งโลหะหนักนำไปสู่การเป็นมะเร็งปอดหรือโรคอื่น ๆ
-
สารแต่งกลิ่นผลไม้หรือกลิ่นหอมมีฤทธิ์ทำลายเยื่อบุหลอดลม
-
มีการปลดปล่อยอนุภาคขนาดเล็ก ***PM 2.5 *** แทรกซึมเข้าส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นการสะสมพิษไปก่ออันตรายในอวัยวะต่างๆ
-
การใช้นิโคตินทำให้สมองมีการเปลี่ยนแปลงทำงานผิดไปจากปกติ ดังนั้นยิ่งเริ่มใช้นิโคตินตั้งแต่อายุยังน้อยมากเท่าไร จะส่งผลเสียกับสมองมากเท่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวัยรุ่นเพราะอายุนี้เป็นช่วงที่สมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex-PFC) จะมีการพัฒนามากที่สุดซึ่ง PFC มีความสำคัญในการวางแผนบริหารจัดการชีวิตและสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ (executive functions and attention performance) เมื่อสมองโดนนิโคตินเข้าจะไปทำให้หยุดยั้งการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองได้เมื่อ PFC มีการทำงานผิดปกติ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดสารเสพติดมีอาการสมาธิสั้นและมีปัญหาเรื่องความคิดความจำโรคทางอารมณ์ (Mood Disorders) ในเวลาต่อมา
-
การใช้ Pod เพิ่มโอกาสในการใช้สารเสพติดอย่างอื่น เช่นนำกัญชาที่เป็นของเหลวหรือสารเสพติดอื่นๆผสมลงไปในการสูบนอกจากผู้ใช้จะติดและได้รับผลเสียจากนิโคตินแล้วยังอาจติดและรับพิษจากสารเสพติดอื่นที่ผสมลงไป คนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มว่าจะใช้สารเสพติดอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เหล้า, กัญชา
-
กรณีคนที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD), โรคซึมเศร้า (Depression), โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder), โรคการปรับตัวผิดปกติภายหลังจากประสบเหตุอันตราย (PTSD) มักใช้ Pod เพราะนิโคตินจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นชั่วคราว เป็นการลดความทรมานจากอาการทางจิตเวช ซึ่งจะนำไปสู่การติดนิโคติน และนิโคตินทำให้ยาที่ใช้รักษาทางจิตเวชได้ผลไม่ดี เพราะทำให้ยามีประสิทธิภาพในการรักษาลดลง