Over 10 years we helping companies reach their financial and branding goals. Onum is a values-driven SEO agency dedicated.

CONTACTS
News All

บุหรี่ไฟฟ้า KS

บุหรี่ไฟฟ้า ขายบุหรี่ไฟฟ้า
LINE ALBUM Ks quick 230504 17

บุหรี่ไฟฟ้า KS    แพทย์เตือนสายควันสูบบุหรี่ไฟฟ้า เสี่ยงมีโอกาสที่จะป่วยโรคหัวใจ

 

ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนโดยพฤติกรรมการสูบบุหรี่นั้นเป็นปัจจัยอันตรายที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอาจทำให้เกิดโรคต่างๆได้เช่นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคถุงลมโป่งพอง วัณโรคปอด มะเร็งปอด เป็นต้น ล่าสุด Health me, please by BDMS ซึ่งให้ข้อเท็จจริงเคลียร์ข้อสงสัย ไขทุกคำถามสุขภาพในช่วงรายการเที่ยงทันข่าว

บุหรี่ไฟฟ้า KS

 

 

นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพออกมาเปิดเผยว่าผลกระทบที่ส่งผลต่อสุขภาพ ณ เวลานี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ฝุ่นละออง PM 2.5 เท่านั้น แต่ภัยจากควันจากบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นตัวจุดชนวนสร้างสารอนุมูลอิสระ (Free Radical) ซึ่งมีผลต่อสุขภาพเราได้ด้วยเช่นเดียวโดยจะก่อให้เกิดโรคเรื้อรังได้ เช่นกันหากมีการสะสมในปริมาณสารมากและเป็นเป็นระยะเวลานานซึ่งจะทำให้ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจหรือแม้กระทั่งโรคทางเดินหายใจและปอดสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการเผาไหม้ของเหลวในบุหรี่ไฟฟ้าจะดูดซึมเข้าไปกระตุ้นให้หลอดเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ยืดหยุ่นเปราะบางอันจะก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด จนเกิดเป็นลิ่มเลือดเข้าไปอุดอันหลอดเลือด และอาจส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจตีบได้

บุหรี่ไฟฟ้า KS

 

ทั้งนี้ นพ.ชาติทนง ได้ออกมาย้ำเตือนภัยของบุหรี่ไฟฟ้าโดยของเหลวอันเป็นสารประกอบต่างๆที่พบในบุหรี่ไฟฟ้านั้นแม้จะยังไม่มีสถิติหรืองานวิจัยระบุว่าไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้ามีพิษร้ายแรงเช่นไรแต่ของเหลวที่ถูกเผาไหม้จากบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีขนาดอนุภาคที่เล็กกว่าบุหรี่ธรรมดา จะสามารถแทรกซึมเข้าไปในปอดส่วนลึกได้และรวดเร็วเนื่องจากไอระเหยเหล่านั้นมีอนุภาคที่เล็กจึงง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงโรคหัวใจก็ควรงดหรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพราะอย่างน้อยก็จะตัดปัจจัยเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ จากสถิติพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจนั้นมาจากบุหรี่

บุหรี่ไฟฟ้า KS

 

 

ปัจจุบันเทคโนโลยีในวงการแพทย์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากอดีตโดนมีมิวัฒนาการที่ก้าวไปไกลมากขึ้น รวมถึงมีเทคโนโลยีที่แม่นยำอาทิการตรวจสมรรถภาพการทำงานของหัวใจโดยการวิ่งบนสายพาน (Exercise Stress Test) การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง (Echocardiogram) หรือการตรวจวัดระดับแคลเซียมบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ (CT Coronary Calcium Score) การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมการทำงานของไต ระดับไขมันคอเลสเตอรอล ระดับไขมันความหนาแน่นสูง-ต่ำ และระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ทำให้เราทราบถึงความเสี่ยงและแนวโน้ม ที่อาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจในอนาคต ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยในสุขภาพจึงควรตรวจเช็กหัวใจกับแพทย์เป็นประจำทุกปีฃ